โรงงานผลิต เซรั่ม
โรงงานผลิต เซรั่ม โรงงานผลิตครีม มาตรฐานGMPPlus+ ระดับสากล ASEAN COSMETIC GMP(FDA), ISO9001(2015), ISO22716(GMP), Green Industry,Halal, Natural and Organic ingredients รองรับการสร้างและจัดทำขึ้นเครื่องสำอางที่สะท้อนถึงแนวคิดคนรุ่นใหม่ ความคิดริเริ่ม เชื่อมความฝัน…สู่อนาคต ความสำเร็จที่ต้องพาไปได้จริง คือ ความท้าทายของคณะทำงานควบคุมคนรุ่นใหม่ มีความต้องการที่จะให้ผู้บริโภคที่ผลิตครีมประสบความสำเร็จสำหรับการสร้างแบรนด์ครีมเป็นของตัวเอง คำถามหลักของหมู่เราเชื่อว่าคุณค่าที่ผู้ใช้ได้รับมากยิ่งกว่า คือกฏเกณฑ์การสร้างที่เป็นโรงงานผลิตเครื่องสำอางมายาวนานกว่า 10ปี พวกเรามีเครื่องยนต์ และเทคโนโลยีการสร้างและจัดทำขึ้น รุ่นใหม่จากต่างประเทศ โรงงาน ผลิต เซรั่ม เพื่อจะสร้างความพึงพอใจระดับสูง ในทุกบริการ โดยปรับปรุงความสามารถสูงสุด ในทุกด้านอย่างสม่ำเสมอ พร้อมกลุ่มคนแนะนำ สร้างแบรนด์ครีม ของผู้บริโภค ภายใต้แนวคิด The Next Gen ที่ยกระดับมาตรฐานที่ได้เปรียบกว่าของคุณ
– บริการศึกษาเรียนรู้ และ พัฒนาสูตร สำหรับสร้างยี่ห้อเครื่องสำอาง
– บริการวางแบบครบวงรอบ สำหรับในการ สร้างแบรนด์
– COSMETIC FILLING
– บริการพยายามจำนวนภัณฑ์
– บริการพิมพ์ และ สกรีนฉลากลงจำนวนภัณฑ์ทุกแบบอย่าง
– บริการจดแจ้งเอกสารการันตี การ สร้างแบรนด์
– บริการฝึกฝนสอนการใช้สื่อออนไลน์ และ ให้คำปรึกษาการผลิตยี่ห้อครีม
– บริการแบ่งปันผู้ซื้อได้ทดพยายามทำเครื่องสำอางด้วยตัวของเราเอง Workshop GET NEW EXPERIENCE
5 แนวทางพยายามครีมใหม่เช่นไรให้ปลอดภัย ผิวไม่พัง
1. สแกนหาส่วนผสมที่ระคายเคือง
ที่คนเราแพ้ครีมจำนวนมาก มักมาจากการแพ้ส่วนที่นำมาผสมกันค่ะ หากเราต้องการเปลี่ยนครีม แต่ก็ไม่ได้อยากให้ผิวประสบพบเจอกับปัญหาแพ้ระคายเคือง ก่อนที่จะซื้อต้องสแกนหาส่วนที่นำมาคลุกเคล้าระคายเคืองก่อนเลยจ้ะ หากครีมตัวไหนไร้เป็นอันว่าซื้อเอามาทดลองได้ ส่วนผสมระคายเคืองหลักๆ ที่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงก็ยกตัวอย่างเช่น สารสเตียรอยด์ สารปรอท ไฮโดรควินิน สารกลุ่มซัลเฟต (SLS, SLES ) Paraben น้ำหอม แอลกอฮอล์ และสีสังเคราะห์ เป็นต้นค่ะ
2. ทดลองใช้แบบตัว Tester ซองเล็กๆ
เรื่องแพ้ครีมไหมแพ้ครีม จริงๆ มันก็เกิดเรื่องที่พูดยากจ้ะ นอกจากนั้นส่วนที่นำมาคลุกเคล้าที่ระคายเคืองแล้ว บางครั้งเราก็สามารถแพ้สารธรรมดาได้ ถ้าสารในสินค้านั้นไม่ถูกกับผิวพวกเรา ถ้าเราจะไปซื้อครีมใหม่แบบกระปุกใหญ่ๆ หลายพัน แต่พอใช้ขึ้นมาดันแพ้ ก็คงจะชมจะเสียตังค์โดยสูญเปล่า อีกแนวทางที่พวกเราต้องการชี้แนะคือ ทดลองหาตัว Tester ซองเล็กๆ มาใช้ดูก่อนจ้ะ บางแบรนด์ก็มีแจกฟรีๆ หรือหากขาย ราคาก็จะไม่สูงมากจ้ะ ทีนี้หากใช้แล้วเริ่มต้นมีอาการชั่วร้าย ก็จะได้ยุติได้ทัน โดยไม่จำเป็นที่จะต้องเสียตังค์ไปกับครีมเยอะเกินไป
3. อ่านรีวิวชมก่อน
เพื่อจะความชัวร์ จำลองอ่านรีวิวจากผู้ที่มีความชำนาญ เหล่าบล็อกเกอร์ หรือผู้บริโภคสินค้าจริงที่มาเขียนรีวิวตามเว็บไซต์ชมก่อนก็ได้เหมือนกันจ้ะว่า พวกเขาใช้แล้วรับรู้อย่างไร ผิวหน้ามีอาการแพ้ระคายเคืองหรือเปล่า ใช้แล้วผิวดียังไง เพื่อที่จะสร้างความมั่นใจให้กับตนเองก่อนค่ะว่า นี่ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคนเคยใช้มาแล้ว แต่ยุคนี้ก็จึงควรอ่านให้ดีค่ะ เนื่องด้วยบางเรื่องเล่าก็เป็นบทความสปอนเซอร์ ขอบอกต่อว่า อ่านไว้เป็นวิธี แต่อย่าเพิ่งปักใจเชื่อทั้งปวง ให้พยายามใช้เทคนิคและวิธีต่อไปกันด้วย
4. หารางวัล หรือคำยืนยันยืนยันคุณภาพ
สมัยนี้มีสถาบันลองผิวหนังหลายๆที่ รวมทั้งมีเวทีประกวดสกินแคร์ที่มากคุณภาพในทุกๆ ปีด้วย หากพวกเราอยากเลี่ยงครีมไร้ประสิทธิภาพ พวกเราควรจะพินิจว่า ครีมตัวใหม่ที่พวกเราจะใช้มีการยืนยันอะไรหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น มีการพิสูจน์จากสถาบันผิวหนังว่าไม่เป็นอันตรายบ้างมั๊ย ผ่านอย.แล้วหรือยัง เคยได้รับค่าตอบแทนยืนยันมาบ้างหรือไม่ แล้วใช้แล้วแพ้มีการคืนเงิน หรือมาตรการอะไรรับผิดชอบพวกเราหรือไม่ สิ่งเหล่านี้จะช่วยยืนยันถึงประสิทธิภาพ ความไม่เป็นอันตรายของครีมได้อันดับหนึ่ง (แต่ก็ไม่น่าจะใช่ทั้งสิ้นนะคะ)
5. อุตสาหะใช้ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่จำเพาะบางวัน
เราคงจะไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ประจำวันก็ได้เช่นกันจ้ะ โดยยิ่งไปกว่านั้นครีมที่มีส่วนผสมของกรด ดังเช่น กรดวิตามินเอ กรดวิตามินซี เนื่องมาจากว่าส่วนที่นำมาคลุกเคล้าพวกนี้หากใช้เป็นกิจวัตรอาจจะส่งผลให้ผิวระคายเคืองได้ ทดสอบใช้วันเว้นวันดูก่อน หากไม่มีลักษณะอาการอะไรน่ากลุ้มอกกลุ้มใจ และแสดงตัวความเคลื่อนไหวที่ดี ก็ค่อยกลับมาทาทุกวันค่ะ ส่วนกรณีของคนที่ใช้แล้วแพ้ เราขอบอกต่อว่า ให้ใช้แค่ครีมตัวใหม่ที่ซื้อมาตัวเดียว แล้วชมอาการจ้ะ หากยังมีอาการแพ้ คราวนี้ชัวร์เลยว่า คุณกำลังแพ้ครีมตัวใหม่อยู่ ควรยุติใช้ได้เลย
TONER , ESSENCE, SERUM และ AMPOULE ต่างกันอย่างไร?
กระแส Korea beauty แปรเปลี่ยนเป็นเทรนด์ที่มีความชื่นชอบเพิ่มมากขึ้น คงมีผลิตภัณฑ์ที่คุณไม่เคยแสดงตัวมาก่อนเป็นทางเลือกเพื่อความงดงาม การชมแลผิว 10 วิธีการของเกาหลี จึงได้กลายเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของผลิตภัณฑ์และฟื้นฟูผิว ยกตัวอย่างเช่นโทนเนอร์,เอสเซ้นต์ , เซรั่มและแอมเพิล ที่มีบทบาทสำคัญในทุกขั้นตอนการ แล้วสินค้า กลุ่มนี้ต่างกันยังไง? นี่คือสิ่งที่คุณควรจะจำเป็นต้องรู้หากจะสร้างแบรนด์ของตน การผลิตสินค้าให้จับใจผู้ซื้อตามกระแสความสวยงามจากเกาหลี
TONERS
ภายหลังทำความสะอาดผิวหน้าสองครั้งโทนเนอร์เป็นกระบวนการที่สามในกิจวัตร Korea-beauty ก่อนอื่น โทนเนอร์ช่วยปรับสมดุลค่า pH ของผิว ตอน pH ที่ดีที่สุดของผิวอยู่ตอน 4.5-6.2 และสามารถถูกขจัดทิ้งได้โดยการล้างหน้า ในตอนที่น้ำยาทำความสะอาดค่าพีเอชต่ำสามารถช่วยลดความไม่สมดุลนี้ได้ แม้กระทั้งน้ำที่คุณใช้ล้างสารตกค้างก็สามารถส่งผลให้ผิวอยู่ในสภาวะเป็นด่างน้อย โรงงานผลิต เซรั่ม โทนเนอร์สามารถช่วยลดผลกระทบพวกนี้และปกป้องไม่ให้ผิวแห้งหรือผิวมันภายหลังคุณล้างหน้า ยิ่งกว่านั้นนี้ยังทำหน้าที่ลบร่องรอยการแต่งบทบาทคุณคงจะหลงคงเหลือจากกระบวนการทำความสะอาดผิวของคุณ นอกเหนือจากนี้นี้ในตอนที่โทนเนอร์อเมริกันมีชื่อเสียงโด่งเหมือนกับในเรื่องความแห้งและแรงของผลิตภัณฑ์ แต่โทนเนอร์ของเกาหลีส่วนมาก ก็ช่วยปลอบประโลมและความชื้น โทนเนอร์เป็นก็เลยที่นิยมมากในเกาหลีที่ ดังเช่นว่า 7 Skin Method และ Toner Wash Method เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ สำหรับในการใช้โทนเนอร์เพื่อที่จะผลักดันผิวเปล่งปลั่ง เป็นลัหษณะของเหลวที่มีน้ำหนักเบาซึ่งสามารถช่วยเพิ่มเติมอีกสารต้านอนุมูลอิสระ, สารผ่อนคลายและความชุ่มชื้นในส่วนที่สำคัญ
ESSENCES
เอสเซ้นส์เป็นหัวใจของการดูแลผิวทุกวันของเกาหลี เค้าหน้าเหลวเหล่านี้ให้ความชื้นอย่างมาก ความชื้นที่เหมาะสมคือสิ่งที่ช่วยให้ผิวที่เปล่งประกายส่องขาวจากข้างในสู่ภายนอก นอกจากนี้การมีสิ่งกีดขวางที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวจะช่วยคุ้มครองปกป้องข้อขัดแย้ง ได้แก่การระคายเคืองและช่วยทำให้ผิวของคุณเปล่งปลั่ง เอสเซ้นส์เยอะมากๆยังมีสารต้านอนุมูลอิสระและแร่ธาตุเพื่อช่วยบำรุงผิว คิดถึงโทนเนอร์และเอสเซ้นส์ในกรรมวิธีการเตรียมพร้อม ก่อนการบำรุงหลักของเซรั่มคุณ
SERUMS
เซรั่มคงจะเป็นหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงจำนวนเยอะที่สุดเนื่องด้วยเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปด้วยเช่นกัน เซรั่มมีลักษณะท่าทางที่จะมีความเข้มข้นเพิ่มขึ้นในส่วนที่นำมาคลุกเคล้าที่ใช้งานสารเหล่านี้เหมือนเจลส่งผลให้ผิวนวล โดยมากจะมีส่วนผสมที่เข้มข้น หมายถึงการเฟ้นบำรุงอย่างตรงจุดและรักษาอุปสรรคผิวอย่างเช่นจุดด่างดำริ้วรอยและความหม่นหมองคล้ำ โดยทั่วไปแล้วเซรั่มจะมีเนื้อสัมผัสที่มีความข้นมากมายยิ่งกว่าเอสเซ้นส์
AMPOULES
แอมเพิลถือได้ว่าเป็นเซรั่มแบบอย่างที่เข้มข้นกว่า รู้สึกว่ามันเป็นช็อตบูสเตอร์ โดยมากจะมีส่วนที่นำมาคลุกเคล้าในปริมาณที่สูงมากขึ้น และจะใช้เวลา ปริมาณ จำกัด อาทิเช่นคุณอาจต้องการใช้แอมป์แพ็ครายสัปดาห์เพื่อจะให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่เพิ่มขึ้น หรือภายหลังกำเนิดข้อขัดแย้งผิวหนังครั้งใหญ่ และนิยมจะเห็นได้ชัดแอมเพิลในขวดเล็กหรือขวดหยดเล็ก ๆ
ถ้าจำเป็นจะต้องเฟ้นใช้ณ เวลา Serums หรือ Ampoules อันนี้ก็จะต้องชมสภาพผิวของแต่ละคนในขณะช่วงเวลา ๆ นั้นด้วยจ้ะว่าเผชิญอะไรมาบ้าง ผิวขณะนี้มีความมันหรือผิวแห้งกร้านค้า หรือผิวขาดน้ำกันแน่ อันนี้ก็จึงควรไตร่ตรองกันแบบ case by case จ้ะ แต่หากซักถามว่าจะใช้สินค้าเหล่านี้อย่างไรนำเสนอว่าให้ลง Essence (น้ำตบ) > Serum (เซรั่ม) > Ampoules (แอมเพิล) > Cream (ครีม)
พื้นผิวแต่ละคนอาจจะนานับประการ แต่โดยธรรมดาเป็นการใช้เอสเซ้นส์->เซรั่ม->แอมเพิล ในระดับจากบางเวลา่สุดไปยังหนาบนผิวหน้าของพวกเรา แนวทางนี้ช่วยให้ผิวสามารถดูดซึมได้ดีเยี่ยมที่สุด และยังจะมีผลต่อสมรรถนะแนวทางการทำงานของผลิตภัณฑ์ ให้ดียิ่งขึ้นอีกต่างหาก
มิติใหม่แห่งการปกปิด ด้วยเครื่องลบริ้วรอยและจุดด่างดำให้หายไปในชั่วพริบตา
อีกหนึ่งผลิตภัณท์ที่เจาะกลุ่มตลาด personalized beauty อย่าง “Opté Precision Skincare System” เครื่องลบริ้วรอยและจุดด่างดำจำเพาะจุด ปรับปรุงแก้ไขจุดบกพร่องบนลักษณะให้หายไปในทันที เพียงแค่สแกน เครื่องจะตรวจทานและตรวจหยิบ ริ้วรอย หรือ จุดด่างดำต่าง ๆ บนผิวหน้า ด้วยจุดหมายเพื่อจะให้ลูกค้างานมีผิวที่สวยสมบูรณ์แบบ เครื่องจะเริ่มปฏิบัติการด้วยการบำรุงผิว โดยใช้มอยเจอไรเซอร์และซีรั่ม ข้างหลังหลังจากนั้นก็เลยเริ่มปกปิดด้วยการเติมเมคอัพจำเพาะจุดให้อัตโนมัติ ที่เคลมว่าให้ความติดทนนานถึง 24 ชั่วโมง นอกนั้นนี้ส่วนที่ดีของการเติมเมคอัพจำเพาะจุด ยังจะช่วยทำให้ไม่เปลืองเนื้อผลิตภัณฑ์ โรงงานผลิต เซรั่ม และสบายผิว Opté Precision Skincare System ปฏิบัติงานผ่านระบบอัลกอริทึ่มที่มีความแม่นยำสูง จึงสามารถตรวจตราผงสีผิว และคัดสรรค์เฉดสีที่เหมาะกับของคนซื้อแต่ละคนได้ นำมาซึ่งการทำให้ได้ผลสำเร็จลัพธ์เนียนเช่นเดียวกับการใช้ Photoshop อย่างยิ่งจริงๆ
นวัตกรรมแห่งการบำรุงผิว ใช้ IoT วางแบบสกินแคร์ให้เหมาะกับสภาวะผิวในประจำวัน
จาก pain point ของผู้ใช้สกินแคร์ที่พบกับปัญหาใช้มาหลายตัวแล้วไม่ตอบคำถาม เนื่องมาจากผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดจำนวนมากออกจะ mass ไม่ดิ่งกับสภาพผิวและตอบปัญหาผิวไม่ตรงจุด ถ้าจะให้ดี ก็มีเป็นสูตรของตนเลยดีกว่ามั้ย ?แบรนด์เครื่องสำอางค์ญี่ปุ่นรายใหญ่ ก็เลยนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยแปลงชีวิตคนยุคดิจิทัลที่เร่งรีบ ยุ่งยาก ให้แค่ใช้สกินแคร์ตัวเดียวจบ แก้ปัญหาผิวอย่างดิ่งจุด ครบทุกข้อขัดแย้งผิวอย่าง นวัตกรรมสกินแคร์ที่ดำเนินงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ผ่าน IoT service พร้อมนำเทคโนโลยี AI มาช่วยพิจารณาสำรวจจับสภาพผิวของผู้บริโภคในรายวันแบบเรียลไทม์ แล้วประมวลผล personalize ออกมาเป็นครีมสูตรเจาะจงที่มีส่วนที่นำมาผสมกันที่ลงตัวที่สุดให้เหมาะกับสภาพผิวประจำวัน และเหมาะสมกับผิวผู้บริโภคงานที่สำคัญ สามารถดีไซน์ครีมจำเพาะตัวได้สูงถึง 80,000 สูตร ให้ท่านได้เป็นเจ้าของครีมบำรุงดูแลผิวที่ดีที่สุดเพื่อตนเอง