Biography ชีวิตจริง
Biography ชีวิตจริง ภาพยนตร์อัตประวัติ สร้างเสริม “แรงจูงใจ” ที่จะต้องดูให้ได้ก่อนตาย!เดินทางผ่านปี 2564 มาถึงครึ่งปีแล้ว สำหรับผู้คนจำนวนมากคงเกิดเรื่องราวต่างๆมากยิ่งกว่าเดิมมายในชีวิตไม่ว่าจะร้ายหรือดี แต่เดือนนี้ก็มีวันหยุดอยู่ยาวนานหลายวัน บางทีอาจลองใช้โอกาสนี้หาแรงบันดาลใจเติมไฟกันสักนิดสักหน่อย โดย Mover ก็ได้สะสม ภาพยนตร์ ประวัติส่วนตัวบุคคลที่น่าจะเพิ่มพลังด้านบวกในการใช้ชีวิตเพื่อสร้างเสริมแรงบันดาลใจสำหรับเพื่อการเริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆให้ชีวิตมาให้ได้ดูกัน ผู้ใดชอบเรื่องไหนก็จิ้มได้เลย
1. The King’s Speech
“เอาชนะความกลุ้มใจ”หัวข้อนี้เหมาะกับ ผู้ที่กังวลใจหรืออายตอนที่ต้องพูดเฉพาะหน้าผู้คนจำนวนไม่ใช่น้อยด้วยเหตุว่าเรื่องนี้ผลิตจากความเป็นจริงของสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 ที่ต้องขึ้นครองราชย์ในตอนสงครามโลก ด้วยความเป็นกษัตริย์ท่านก็เลยจำเป็นต้องบอกปลุกใจเหล่าประชาชนทุกคนซึ่งราวกับจะไม่มีอะไร แต่ว่าท่านมีลักษณะติดอ่างและก็จะเป็นขั้นร้ายแรงเมื่อขึ้นบอกต่อหน้าสาธารณะชน แล้วก็เพราะเหตุนี้พวกเราจึงจะได้เห็นเรื่องราวและวิธีการต่างๆที่พระองค์เพียรพยายามเพื่อเอาชนะอาการดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
2. Moneyball
“เห็นด้วยสิ่งใหม่ๆอย่าให้เสียงนินทามาหยุดคุณได้”ด้วยปัจจุบันนี้มีอะไรใหม่ๆเกิดขึ้นอยู่ทุกวี่วัน อะไรบางอย่างที่พวกเราว่าดีแล้ว วันใดวันหนึ่งมันอาจจะมีสิ่งที่ดีกว่ามาแทนที่ก็ได้ แต่พวกเราจำเป็นต้องสารภาพมันให้ได้ ดังเช่นภาพยนตร์หัวข้อนี้ที่เล่าถึงประวัติของ บิลลี่ บีน ผู้จัดการทีมเบสบอล ที่ตัดสินใจใช้การคำนวนทางคณิตศาสตร์เข้ามาช่วยสำหรับการบริหารจัดแจงทีม ซึ่งแน่นอนว่าขณะนั้นไม่เป็นที่ยอมรับ และก็เกือบถูกไล่ออกจากทีม แต่ว่าสุดท้ายเขาก็แสดงให้ทุกคนมีความคิดเห็นว่ากรรมวิธีของเขานั้นสำเร็จจริง
3. The Wolf of Wall Street
“ลงมือกระทำ อย่ารอคอยช้า”เรื่องนี้เกิดเรื่องที่ให้แรงบันดาลใจกับนักลงทุนหรือเจ้าของธุรกิจได้ดีมาก เพราะว่าเป็นเรื่องของ จอร์แดน เบลฟอร์ท คนกลางค้าหุ้นไฟแรง ที่หารายได้ได้เป็นกอบเป็นกำจากการลงมือกระทำด้วยปณิธานอันแรงกล้าที่จะร่ำรวย ซึ่งถือได้ว่าเป็นสิ่งที่น่าเอาเป็นแบบอย่าง แต่ในหนังก็สะท้อนอีกมุมหนึ่งให้เราได้เห็นถึงโทษต่างๆด้วย หลังจากที่เขารวยมากมายๆเขาก็ใช้เงินอย่างเพ้อคลั่งไปกับสิ่งเสพติด สตรี แล้วก็ของใช้ราคาแพง ซึ่งเราก็ได้เห็นโทษทัณฑ์ที่เขาต้องพบเจอในผลสรุปซึ่งเขาโดนจับกุมในคดีฟอกเงิน ปัจจุบันนี้ตัวเบลฟอร์ทนั้นเป็นคนเขียน นักบรรยายรวมทั้งนักสร้างแรงจูงใจ
4. Invictus
“เชื่อถือในสิ่งที่ถูกต้อง”วันที่ 5 ธันวาคมก่อนหน้าที่ผ่านมาเป็นวันครบรอบปีที่ 4 การจากไปของผู้นำผิวสีคนแรก เนลสัน แมนเดล่า ของแอฟริกาใต้ ผู้ต่อสู้กับไม่เหมือนกันด้านสีผิวและความไม่เท่าเทียมของมนุษย์ในประเทศด้วยสันติวิธี หากว่าเขาควรต้องโดนจับขังจองจำในเรือนจำกว่า 27 ปีก็ตาม หนังเรื่องนี้จะก่อให้คุณเห็นถึงความขมักเขม้นการต่อสู้เพื่อคนหลายล้านคน ด้วยตัวเพียงคนเดียว
5. The Terminal
“มองโลกในแง่ดี ไม่มีอะไรห่วยเสมอไป”เรื่องราวของ วิคเตอร์ ทุ่งนาวอร์สกี้ ชาวคาโครเชีย ที่จำเป็นต้องติดอยู่ในสนามบินของอเมริกา เนื่องจากประเทศของเขามีปัญหาเกิดขึ้น ทำให้หนังสือเดินทางของเขาถูกหยุด แม้กระนั้นแทนที่เขาจะเครียดและเป็นกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขากลับมองมันในด้านดีที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่ท่าอากาศยานนี้ให้มีค่าที่สุด โดยการช่วยงานเหลือคนอื่นๆปฏิบัติงานต่างๆจนกระทั่งเขามีเพื่อนพ้องเยอะมาก หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าไม่มีอะไรที่แย่เสมอไปหรอก เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายๆถ้าเกิดพวกเรามีสติรวมทั้งมองมันในแง่ดี พวกเราก็อาจจะมีความสบายกับมันก็ได้
6. The Pursuit of Happiness
“เป็นจริงเป็นจังแล้วก็พยายาม”ถ้าคุณอยู่ในช่วงขัดสนเรื่องเงิน ผมเสนอแนะหนังเรื่องนี้เลยขอรับ ไม่มีผู้ใดอดตายถ้าคุณเอาจริงเอาจังและก็บากบั่น หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องของ คริส การ์ดเนอร์ หัวหน้าครอบครัวที่ล้มละลาย ในยุคเศรษฐิกิจถดถอย ประสบพบเจอกับปัญหาอย่างหนักถึงขั้นขาดเงินจ่ายค่าบ้านพัก ทั้งยังมาแยกทางกับภรรยา ทำให้ต้องแบกรับภาระดูแลลูกอีก 1 คนโดยลำพัง เขาจึงจะต้องตรวจตราหางานต่างๆให้รอดตายต่อไปให้ได้
7. Unbroken
“ทำความเข้าใจรวมทั้งปรับพฤติกรรม”หนังจากความสามารถการกำกับของซุปเปอร์สตาร์หญิงที่ไม่มีใครไม่รู้อย่าง Angelina Jolie สร้างขึ้นมาจากข้อเท็จจริงของ หฝ่าส์ แซมเปอรินี่ ชายหนุ่มอเมริกันอิตาเลี่ยน กับการดิ้นรนขวนขวายเรื่องราวต่างๆของเขาจากการเป็นเด็กเกเร สู่นักวิ่งกลุ่มชาติที่ได้ไปแข่งขันในโอลิมปิก สู่ทหารทิ้งระเบิดในสงคราม ชีวิตของเขาผ่านอะไรมาเยอะแยะ แม้กระนั้นเขาก็ทำความเข้าใจและปรับพฤติกรรมให้ปฏิบัติหน้าที่ต่างๆได้อย่างดีที่สุด
8. The Social Network
“กล้าตกลงใจ”นี่เป็นหนังเรื่องหนึ่งที่ผมถูกใจเอามากๆในความเห็นโดยส่วนตัว หนังเล่าถึงชีวิตของผู้ผลิตสังคมออนไลน์ที่ใช้กันทั่วทั้งโลกอย่าง Facebook ซึ่งเขาคนนั้นก็คือ มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก อย่างที่เรารู้กันว่าหนังชีวประวัติส่วนมากจะถูกปรุงแต่งโดยมือเขียนบท เพิ่มนู่นโน่นนี่หน่อยเพื่อให้การเล่าเรื่องดูบันเทิงใจเพิ่มมากขึ้น หัวข้อนี้ก็เช่นเดียวกัน เพราะว่ามันถูกทำจากข้อมูลโอบล้อม ไม่ใช่จากปากของมาร์คโดยตรง หนังจะให้ท่านรับรู้ถึงการเป็นเจ้าของธุรกิจมูลค่าหลายล้าน บางโอกาสการตัดสินใจของคุณอาจจะทำให้สิ่งหนึ่งดีขึ้น แม้กระนั้นก็จำต้องยอมเสียอีกสิ่งหนึ่งไปอย่างเดียวกัน แต่ว่าเราก็จะต้องชั่งน้ำหนักด้วยสติว่าคุ้มจะเสียไปหรือเปล่า
– A Beautiful Mind (2001)
เรื่องราวของ “จอห์น แนช” (John Nash) ชายที่ทุกต่างเรียกขานว่าอัจฉริยะสติเฟื่องผู้กลับโลก เขาเป็นนักคณิตคนประเทศอเมริการวมทั้งบิดาที่เกมเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ปี 1994 โดยเขาเป็นเจ้าของทฤษฎีดุลยภาพซึ่งมีความสำคัญกับเศรษฐศาสตร์สมัยใหม่ ซึ่งส่งผลต่อกิจการค้าและการทหารซึ่งเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ชาติแต่ว่าแนวความคิดที่ส่งให้เขาได้รับรางวัลโนเบลเป็น “แนวคิดเกม” วิทยานิพนธ์ปริญญาเอกที่เขาสร้างสรรค์ขึ้นส่วนตัว โดยมีความหนาเพียง 27 หน้าเท่านั้น และเมื่อช่วงอายุ 30 จอห์น แนชก็เจอกับจุดหักเห
เมื่อเขามีลักษณะอาการป่วยเป็นโรคที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับจิตที่เรียกว่า Schizophrenia เป็นกลุ่มอาการที่มีความผิดปกติของความนึกคิด ทำให้เขามีความคิดรวมทั้งการรับรู้ไม่ตรงกับความเป็นจริง โน่นเป็นเขาเริ่มเชื่อเรื่องมนุษย์ดาวอื่นต่างๆอื่นๆอีกมากมายภาพยนตร์เรื่องนี้มีชื่อภาษาไทยในบ้านพวกเราว่า “ผู้ชายหลายมิติ” นำแสดงโดยรัสเซล โครว์ (Russell Crowe) ซึ่งเล่นบทเป็นจอห์น แนช พร้อมทั้งเสียงวิจารณ์ในทางที่ดี โดยทำรายได้มากถึง 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนผู้กำกับของหัวข้อนี้คือรอน ฮาวเวิร์ด (Ron Howard) และเขียนบทโดยอคิวา โกลด์สแมน (Akiva Goldsman) โดยบทของเรื่องนี้ยึดตามหนังสือขายดี ซึ่งมีชื่อเดียวกันกับภาพยนตร์
– A Beautiful Mind (2001)
เอารางวัลออสการ์ถึง 4 สาขาร่วมกัน เป็นสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมปี 2001, สาขาดาราสมทบหญิงเยี่ยม, สาขาผู้กำกับการแสดงภาพยนตร์เหมาะสมที่สุด แล้วก็สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงแก้ไขเยี่ยมที่สุด
Milk (2008) เรื่องราวของ “ฮาร์วีย์ มิลก์” (Harvey Milk) นักการเมืองชาวอเมริกันที่ประกาศตัวว่าเป็นรักร่วมเพศคนแรก และยังได้รับเลือกให้เป็นเทศมนตรีของซานฟรานซิสโก เขายังเป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิชาวรักร่วมเพศอีกด้วย ซึ่งนั่นทำให้เขาแปลงเป็นผู้กลับโฉมหน้าประวัติศาสตร์ของอเมริกาที่ทำให้แฟนร่วมประเวณีกล้าเผยตัวมากเพิ่มขึ้น จนกระทั่งวารสาร Time สรรเสริญให้เขาเป็น 1 ใน 100 บุคคลสำคัญของโลกที่ศตวรรษแม้กระนั้นการประกาศตัวรวมทั้งการเป็นนักต่อสู้เพื่อคนรักร่วมเพศกลับทำให้เขาเสียชีวิตก่อนอันควรจะจากการยิงระยะเผาขนโดยนักการเมืองคู่แข่งขันที่เกลียดชังเกย์ ภายหลังจากการตายฮาร์วีย์ มิลก์ได้รับเครื่องอิสริยาภรณ์เหรียญอิสรภาพประธานาธิบดี
– Milk (2008)
ถ่ายทอดช่วงชีวิต 8 ปีสุดท้ายของฮาร์วีย์ ไม่ลก์ โดยได้ผู้แสดงฌอน เพนน์ (Sean Penn) รับบทบาทนำ และก็กำกับภาพยนตร์โดยกัส แวน แซงต์ (Gus Van Sant) ผู้กำกับที่มีชื่อเข้าชิงออสการ์ หนังเรื่องนี้ยังถ่ายทำจากสถานที่จริงในมหานครซานฟรานซิสโกอีกด้วยหนังประเด็นนี้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 8 สาขาด้วยกัน แม้จะคว้ามาได้ 2 สาขาก็แต่ว่าก็นับว่าเป็นหนังที่ยอดเยี่ยมแล้ว โดยสาขาที่ได้คือสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมแล้วก็สาขาบทภาพยนตร์เริ่มแรกเยี่ยม นอกเหนือจากนี้ Milk (2008) ยังได้รางวัล ฯลฯ
Steve Jobs (2015)
Steve Jobs หนังอัตประวัติสุดยอดเจ้าพ่อไอทีผู้ก่อตั้ง Apple ที่สร้าง เครื่อง Mac ไอเพียงพอด ไอโฟน รวมทั้ง ไอแพด ซึ่งได้ ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ (Michael Fassbender) มารับบท สตีฟ จ็อบส์ ชายอัจฉริยะ ในช่วงการเปิดตัวสินค้า 3 จำพวก
มาจนกระทั่งการเปิดตัวไอแมค ในปี 1998 และก็จะนำทุกคนไปสู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงโลกดิจิตอล ผลงานการกำกับของ ดินแดนนี บอยล์ (Danny Boyle) จาก Slumdog Millionaire ส่วนหัวข้อนี้ดัดแปลงแก้ไขจากหนังสือของ วอลเตอร์ ไอแซคสัน รวมทั้งได้ แอรอน ซอร์กิ้น มือเขียนบทจาก The Social Network มาเขียนบทให้ กระทั่งสามารถเอารางวัล บทภาพยนตร์ดีเยี่ยมที่สุด กับ ผู้แสดงสมทบหญิง จากเวทีลูกโลกทองมาครองได้
Steve Jobs เกี่ยวกับเรื่องราวช่วงที่การบรรลุเป้าหมายของ สตีฟ จ๊อบส์ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงวงการเทคโนโลยีดิจิตอลชั้น 1 ของโลก สำหรับเพื่อการเปิดตัวสามสินค้าซึ่งเป็นราวกับสัญลักษณ์ในชีวิตหลักการทำงานของ จ็อบส์ เริ่มจาก Macintosh ในปี 1984 , ต่อด้วย NeXT Cube ในปี 1988 แล้วก็จบสิ้นลงด้วย iMac ในปี 1998
รวมทั้งผู้คนที่มีความสำคัญในชีวิตของเขาที่แวะเวียนเข้ามาไล่ตั้งแต่ ลิซ่า เบรนแนน จ็อบส์ ลูกสาวนอกกฎหมายของเขา , โจอันนา ฮอฟแมน อดีตประธานฝ่ายบริหารด้านการตลาดของแมคอินทอช ผู้ช่วยคนรู้จักมักคุ้น ,สตีฟ วอซเนียก ผู้ร่วมจัดตั้งแบรนด์ลูกแอปเปิ้ล เพื่อนพ้องของเขา และ จอห์น สกัลลีย์ อดีตกาลประธานกรรมการบริหารของผลแอปเปิ้ล