หนังไทยตลก
หนังไทยตลก ปีนี้ 2564 ถึงเดือน เดือนพฤศจิกายน มีภาพยนตร์ไทยเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ประมาณ 13 เรื่อง เข้าฉายแบบ ระบบ Streaming 3 เรื่อง มีหนังที่คงจะได้เงินอย่าง ร่างทรง – ผู้กำกับฯบรรจง ปิสัญธนะข้าล ค่ายจีดีเอช รายได้ทะลุ 100 ล้าน ฯลฯ ในช่วงสองปีที่ไทยประสพวิกฤติโรคระบาดดังเช่นทั่วโลก ทำให้ผู้สร้าง ผู้สร้าง และผู้กำกับภาพยนตร์ไทยประสพปัญหาไปด้วย นอกเหนือจากหนังจะเลื่อนฉาย หนังไทย ตลก แล้วก็พับแผนทำภาพยนตร์เนื่องจากปัญหาล็อกดาวน์แล้ว บรรดาหนังไทยที่เข้าโรงส่วนมากเป็นหนังตลกอิงกับแคว้น แล้วก็ใช้ทุนน้อยน่าสนใจว่า “ทิศทางภาพยนตร์ไทย”
ภายหลังจากนี้จะเดินไปยังไง ดูจากกรณีค่ายเอ็ม เทอร์ตี้ไนน์ หรือ M39 ดึงคนที่ใครๆก็รู้จัก อย่าง กิน จ๊กมก เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา ทำหนังตลกแคว้นอีสาน รวมทั้งนักแสดงดัง เอกชัย ศรีวิชัย ทำภาพยนตร์ตลก หนังไทย ท้องถิ่นภาคใต้ ซึ่งทำหนัง อย่าง มนต์รักดอกผักบุ้ง เลิกคุยทั้งยังอำเภอ และ อีหล่าเอ๋ย ยอดรายได้ทะลุเป้ามาแล้ว (อ้างอิง – ทิศทางใหม่ของ ‘M39’ ในสมัย ‘ปัญชลีย์ นิธิจิระโรจน์’)
สะท้อนว่า “หนังท้องถิ่นนิยม”
ยังขายได้แล้วก็ยังคงเดินหน้า ข้างหลังตอน 4-5 ปีมานี้ หนังลักษณะดังที่กล่าวถึงแล้วถูกผลิตออกมาอย่างสม่ำเสมอเช่นเดียวกันกับ “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” เบอร์ใหญ่โรงภาพยนตร์ ประกาศเจาะ 77 จังหวัด ผลิตภาพยนตร์ไทยโกยเงินภูธร มองข้ามช็อตไปสู่ปีต่อไป 2565 แนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจโรงหนัง จะเดินหน้าขยายสาขาสู่ต่างจังหวัดให้ครบ 77 จังหวัด
แล้วก็ต่อตัวต่อสู่ระดับ “อำเภอ” เพื่อตอบสนองคอหนังภูธรซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่จะส่งเสริมให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์เติบโตต่อเนื่อง โร้ดแมปปีต่อไปของเมเจอร์ฯ จะมุ่งขยายโรงหนังไปยังต่างจังหวัดทั้งหมดทั้งปวง ย้ำหัวเมืองหลัก เมืองรอง ไม่มีกรุงเทพมหานคร ซึ่งเดี๋ยวนี้ต่างจังหวัดกำลังสร้างรายได้ให้บริษัทเกินกว่า 60%
เมเจอร์พร้อมลุยผนึกผู้ช่วยเหลือสร้างภาพยนตร์ไทย เพื่อเอาใจคนท้องถิ่น(Local) ภายหลังจากเมืองคลายล็อกให้ผู้ผลิตออกกอง ทีมงานรวมตัวกันได้ 200 คน ซึ่งเป้าหมายปีหน้าบริษัทจะสร้างหนังไทยป้อนตลาดกว่า 20 เรื่อง
เรื่องย่อหนังวัยเป้งง นักเลงขาสั้น
เรื่องของเด็กขาสั้น 2 แก๊งค์ 2 สถานที่เรียน แก๊งค์ “เฟี้ยวฟ้าวมะพร้าวแก้ว” มีเป้งเป็นหัวหน้า แก๊งค์ “ไส้เลื่อนสะเทือนติ่ง” มีติ่งเป็นหัวหน้า ที่ผ่านมา เป้ง กับ ติ่ง เคยเป็นเพื่อนรักกัน ดู หนังไทย แม้กระนั้นมีเหตุมีผลที่ทำให้ทั้งคู่แตกหักกันชนิดที่ว่าเจอหน้ากันที่ไหนต้องยกพวกตีกันทุกที เป้งมีน้องชายชื่อ ป๋องแป๋ง ป๋องแป๋งใฝ่ฝันจะทำวงดนตรี พอเพียงความฝันเป็นจริง ติ่งก็ตามรบกวน ระหว่างคำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ แล้วก็ความฝันของน้องชายผู้เดียวที่เป้งรักมาก เป้งจะตกลงใจยังไง เรื่องราวครั้งนี้จะจบเช่นไรต้องตามลุ้นไปพร้อมเพียงกัน
ภาพยนตร์ไทย
มีประวัติความเป็นมาที่ช้านาน หนังไทยเรื่องแรกถ่ายทำในประเทศไทย คือ เรื่อง นางสาวสุวรรณ ผู้สร้างหมายถึงบริษัทผลิตภาพยนตร์ ยูนิเวอร์ซัล ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้ผู้แสดงทั้งปวงเป็นคนประเทศไทย1 พ.ศ. 2470 ภาพยนตร์เรื่อง โชคสองชั้น เป็นภาพยนตร์ขนาด 35 มม. ขาว-ดำ ไม่มีเสียง ได้รับการยินยอมรับให้เป็นภาพยนตร์ประเภทเรื่องแสดงเพื่อกิจการค้าเรื่องแรกที่สร้าง โดยคนประเทศไทย2ในระยะหลัง พุทธศักราช 2490 ถือเป็นช่วงยุคเจริญก้าวหน้าของหนังไทย สตูดิโอถ่ายทำรวมทั้งภาพยนตร์ มีจำนวนมากขึ้น
ต่อไปเมืองไทยไปสู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ถือเป็นตอนซบเซาของหนังไทย เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เลิกลง ธุรกิจการค้าภาพยนตร์ในประเทศไทยเบาๆฟื้นคืนกลับมา ได้เปลี่ยนไปสร้างเป็นภาพยนตร์ขนาด 16 มิลลิเมตรแทน และเมื่อบ้านเมืองไปสู่ภาวะคับขัน หนังไทยหลายเรื่องได้แสดงบทของตนเองในฐานะกระจกสะท้อนปัญหาการเมือง แล้วก็สังคม ในระยะเวลาระหว่างปี พ.ศ. 2516-2529 ต่อมาภาพยนตร์ไทยในช่วงปี พุทธศักราช 2530-2539 โดยในตอนแรกทศวรรษวัยรุ่นเป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่ เว้นแต่ภาพยนตร์ประเภทวัยรุ่นแล้ว หนังผี และก็หนังบู๊ และก็หนังเอวี แล้วก็หนังเกรดบี ก็มีการผลิตมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ
จับตารอดู 8 ภาพยนตร์ไทย
จ่อคิวเข้าฉายพฤศจิกายน-ธันวาคม 2564หลังจากที่ คนทรง ภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องปัจจุบันจากความสามารถการกำกับของ โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะข้าล ได้เข้าโรงฉายอย่างเป็นทางการช่วงวันที่ 28 ต.ค.ก่อนหน้าที่ผ่านมา และได้เสียงตอบรับที่ดีจากผู้ชมอย่างล้นหลาม ซึ่งถือได้ว่าเป็นสัญญาณที่ดีไม่น้อยสำหรับวงการภาพยนตร์ไทยที่ส่อแววว่าจะกลับมาคึกคักอีกที นับตั้งแต่โรงภาพยนตร์ในเขตกรุงเทพฯ และอีกหลายจังหวัด จำต้องถูกปิดไปยาวนานกว่า 5 เดือน เพราะว่ามาตรการควบคุมการระบาดของโรควัววิด รวมทั้งพึ่งกลับมาเปิดได้อีกรอบเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมก่อนหน้าที่ผ่านมา
THE STANDARD POP
ถือโอกาสสะสมกำหนดการฉายของ 8 หนังไทยหลากรสชาติ ที่จัดเตรียมจ่อคิวมอบความเพลิดเพลินให้แก่ผู้ชมในพฤศจิกายน-ธันวาคม 2564 ว่าแต่ภาพยนตร์ไทยเรื่องไหนที่คุณกำลังรอคอยการเข้าฉายมากที่สุดในปีนี้?
Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ
“บ้าน”ที่แห่งการเกิด เติบโต รวมทั้ง ลาจากที่ศูนย์รวมทุกเรื่องราวที่ความทรงจำที่ที่มีคำมั่นสัญญาเยอะมากให้หวนมารวมทั้งสำหรับพวกเขากลุ่มนี้ “เชียงใหม่”หมายถึง”บ้าน”ที่ที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นเมื่อใดก็ตามได้กลับมาคืนในที่สุดก่อนจบจากสถานศึกษา “เน” (จุฑาวุฒิ ดีกำพล) เลือกใช้วันสุดท้ายของชีวิต เด็กนักเรียน มัธยม6 เก็บทุกเรื่องราวความทรงจำลงบนรูป โดยไม่ได้คิดว่าจะมีคนไหนยังอยู่ที่สถานศึกษา จวบจนกระทั่งเขาได้พบกับรุ่นน้อง มัธยม3 จอมกวน “บีม” (กิตติศักดา ปฐมบูรณา)
นักกีฬาบาสของสถานที่เรียน ที่ย่องมาขอรูปสาวสวยในฝันที่ตัวเองแอบชอบจากช่างภาพมือหนึ่งในสถานศึกษาอย่างเขา มิตรภาพของรุ่นพี่-รุ่นน้องที่เกิดขึ้นในตอนกลางคืนในที่สุดก่อนเรียนจบในสถานที่ที่เป็นเหมือนบ้านหลังที่ 2 ของเด็กทุกคน กับบทพูดเรื่องราวต่างๆของช่วงชีวิตก่อนหน้าที่ผ่านมาในอดีต ทำให้มีบางอย่างที่เชื่อมถึงกันเกิดขึ้นในวันที่ “บัวจัน” (เพ็ญหน้า ศิริกุล) ต้องสูญเสียคนรักไปอย่างไม่มีทางกลับ ทุกสิ่งในบ้านคุณจึงต้องเปลี่ยนเป็นผู้ดูแลทั้งหมดทุกอย่าง อีกทั้งบ้าน คนงาน หนี้ รวมทั้งความรักของหลาน 2 คน “เหว่า” (ณัฐพงษ์ ย่ำรุ่งเนตร์) กับ “ชมภู่” (ทิพปภา แซ่โง้ว) และก็กระดาษแผ่นเล็กๆที่สามีเขียนไว้มองต่างหน้า กับความทรงจำดีๆที่ยังอยู่
คำสัญญาที่ให้กันไว้ว่าเราจะอยู่ด้วยกันจนแก่ตัว ยิ่งเหมือนเป็นสิ่งตอกย้ำซ้ำเติมตลอดระยะเวลา บัวจันจะล่วงเลยแล้วก็ลืมรักคราวนี้ได้ยังไงก่อนงานแต่งงานจะเริ่มระหว่าง “เสี่ยเล้ง” (เรืองอำนาจ ลอยยกศักดา) นักธุรกิจหนุ่มชาวใต้ และก็ “ปรียา” (ศิรพันธ์ วัฒนจินดา) ว่าที่เจ้าสาว ที่กลับมาทำพิธีแต่งงานที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเติมเต็มความฝันให้เกิดความสวยงามหรูสมใจในถิ่นฐานบ้านช่อง โดยมีน้องชาย “เลี่ยม” (วิชญ์ดียิ่ง หิรัญวงษ์กุล) แล้วก็ “น้าอร” (พุทธชาด พงศ์สุชาติ)
อาสา เป็นผู้สร้างงาน มงคลสมรส ให้สมดังใจ ของคุณ
แต่ว่าการกลับมาบ้านครั้งนี้ หนังไทยตลก ทำให้ปรียาได้พบกับ “พี่เป๊ก” (สุวจนะ จันทร์เจริญ) อดีตแฟนคราวแรกของคุณ ที่เขามาพร้อมกับการทวงถามคำสัญญาและความรู้สึกดีๆที่เคยมีให้กัน เมื่อความรัก ความจำย้อนกลับมาอีกรอบ ปรียาจะตกลงใจเลือกรักรวมทั้งสุขสบายกับคนไหนกันก่อนวันมงคลสมรสของเธอครั้งนี้เหลียวหน้าแลหลัง ภาพยนตร์ไทยสมัยวัววิด กรณีแนวทางหลังเปิดประเทศ ซึ่งจะต้องใช้มรดกวัฒนธรรม เพื่อโอกาส Soft Power ในการยกฐานะเศรษฐกิจประดิษฐ์ของประเทศไทยตั้งแต่แมื่อไทยเริ่มระบาดโควิด-19 ทั่วทั้งประเทศ เมื่อต้นปี 2563
นำมาซึ่งมาตรการล็อกดาวน์ ปิดเมือง ปิดประเทศ หลายระลอก ซึ่งกระทบแวดวงภาพยนตร์ได้รับผลกระทบตลอดปีที่แล้ว 2563 ภาพยนตร์ไทยเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ประมาน 37 เรื่อง โดยเฉลี่ยไทยผลิตและฉายออกแต่ละปีราว 50-70 เรื่อง และก็ในระบบ Streaming ราวๆ 17 เรื่องจากภาพยนตร์ไทย 30 กว่าหัวข้อนั้น
มีหนังทำเงินประมาณ 5-6 เรื่อง หนังไทยตลก อาทิเช่น อีเรียมซิ่ง – ผู้กำกับฯพฤกษ์ เอมะรุจิ ค่ายเอ็ม พิคพบร์ส โรงภาพยนต์เมเจอร์ รายได้ 200 ล้าน , พี่นาค2 – ผู้กำกับฯไมค์ ภณธฤต ค่ายไฟว์สตาร์ รายได้ 101 ล้าน , อ้าย..คนหล่อลวง – ผู้กำกับฯเมษ ธราธาร ค่ายจีดีเอช รายได้ 97 ล้าน และก็ มนต์รักดอกผักบุ้ง เลิกคุยอีกทั้งอำเภอ – ผู้กำกับฯเอกชัย ศรีวิชัย ค่ายM39 รายได้ 43 ล้าน เป็นต้น
สมัครสมาชิก ID LINE : @win666
